ในยุคที่การเสริมหน้าอกเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของผู้หญิงจำนวนมาก ความต้องการมีหน้าอกที่อวบอิ่มและสวยสมส่วนทำให้หลายคนเลือกใช้ “วิธีฉีดสารเหลว” แทนการผ่าตัดใส่ซิลิโคน เพราะเห็นว่าไม่ต้องพักฟื้นและเห็นผลไว แต่ในความเป็นจริง “การฉีดสารเหลวหน้าอก” กลับเป็นต้นเหตุของปัญหาร้ายแรงมากมายในระยะยาว ทั้งอักเสบ หน้าอกแข็งผิดรูป หรือแม้กระทั่งเนื้อตาย จึงทำให้การ “เลาะสารเหลวออกจากหน้าอก” กลายเป็นทางออกสำคัญสำหรับผู้ที่เผชิญปัญหานี้

ปัญหาการฉีดสารเหลวหน้าอกคืออะไร
สารเหลวที่ถูกฉีดเข้าไปในหน้าอกมักเป็นสารที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น ซิลิโคนเหลว (Liquid Silicone), พาราฟิน (Paraffin), น้ำมันแร่ (Mineral Oil) หรือแม้กระทั่งสารไม่ทราบชนิดที่ลักลอบใช้ในคลินิกเถื่อน จุดประสงค์เพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูเต็มขึ้นทันทีหลังฉีด แต่สารเหล่านี้ไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ และร่างกายจะตอบสนองโดยการสร้างพังผืดห่อหุ้ม ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง หน้าอกแข็งผิดรูป หรือเกิดก้อนแข็งในเนื้อเต้านม
เมื่อเวลาผ่านไป สารเหลวจะเริ่ม “ไหล กระจาย” ไปยังบริเวณใกล้เคียง เช่น รักแร้ ท้องแขน หรือแม้แต่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการบวมแดง และในบางรายรุนแรงจนต้องผ่าตัดเลาะออกทั้งหมดเพื่อหยุดการลุกลามของสาร
สารเหลวคืออะไร และมีอะไรบ้าง
คำว่า “สารเหลว” ในวงการศัลยกรรม หมายถึง สารที่อยู่ในรูปของเหลวหรือเจลที่ไม่สามารถสลายได้ด้วยตัวเองในร่างกาย ซึ่งแตกต่างจากสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ
สารเหลวที่มักพบว่ามีการฉีดผิดวัตถุประสงค์ ได้แก่
- ซิลิโคนเหลว (Liquid Silicone) – เป็นสารต้องห้ามในทางการแพทย์สำหรับฉีดเสริมหน้าอก เพราะไม่สามารถย่อยสลายและอาจเคลื่อนย้ายไปยังอวัยวะอื่น
- พาราฟิน (Paraffin Oil) – มักใช้ในอุตสาหกรรม ไม่ใช่สำหรับการแพทย์ เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและเนื้อตาย
- น้ำมันแร่ (Mineral Oil) – บางคลินิกเถื่อนนำมาใช้แทนสารเติมเต็ม ทำให้เกิดพังผืดและก้อนแข็งในเนื้อหน้าอก
- สารไม่ทราบชนิด – เป็นอันตรายที่สุด เพราะไม่สามารถคาดเดาปฏิกิริยาของร่างกายได้ อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง
อันตรายและผลข้างเคียงจากการฉีดสารเหลว
การฉีดสารเหลวอาจให้ผลลัพธ์ที่ดูดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมักตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น
- หน้าอกแข็งผิดรูป จากพังผืดที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต้านสารแปลกปลอม
- สารเคลื่อนย้ายหรือกระจายตัว ไปยังส่วนอื่น เช่น รักแร้ หรือลำตัวด้านข้าง
- เกิดการอักเสบเรื้อรังหรือเป็นหนอง ต้องผ่าตัดเปิดแผลระบาย
- เนื้อตายและผิวหนังเปลี่ยนสี จากการไหลของสารหรือการติดเชื้อ
- เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเทียม (Silicone Granuloma) ซึ่งเกิดจากการอักเสบเรื้อรังที่เนื้อเต้านม
อาการบางอย่างอาจไม่เกิดทันที แต่จะค่อย ๆ ปรากฏภายใน 1–5 ปีหลังฉีด เช่น หน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน เจ็บตึง หรือคลำเจอก้อนแข็ง
วิธีตรวจและประเมินก่อนแก้ไข
ก่อนการผ่าตัดเลาะสารเหลว แพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อประเมินสภาพเนื้อเต้านมและการกระจายของสาร โดยมักใช้วิธีดังนี้
- อัลตราซาวด์ (Ultrasound Breast) เพื่อดูตำแหน่งและปริมาณของสารเหลว
- เอกซเรย์หรือ MRI สำหรับกรณีที่สารกระจายลึกหรืออยู่ใกล้ต่อมน้ำนม
- ตรวจเลือดและร่างกายทั่วไป เพื่อประเมินความพร้อมก่อนผ่าตัด
- ซักประวัติการฉีดสาร ว่าฉีดมาเมื่อไหร่ ปริมาณเท่าไร และใช้สารประเภทใด (หากทราบ)
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะช่วยให้แพทย์วางแผนการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยที่สุด
แนวทางการแก้ไขและผ่าตัดเอาสารเหลวออก
การ “เลาะสารเหลวหน้าอก” เป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ความชำนาญสูง แพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้ราวนมหรือรอบปานนม เพื่อเข้าไปเลาะเอาสารเหลวและพังผืดออกให้มากที่สุด โดยระหว่างผ่าตัดอาจต้องดูดหรือขูดเอาสารออกทีละส่วนอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการกระจายของสารเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่น
ในบางกรณีที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบรุนแรง แพทย์อาจต้อง พักหน้าอก ไว้ก่อนประมาณ 3–6 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวสมบูรณ์ก่อนจะทำการเสริมใหม่อีกครั้ง
แต่หากเนื้อเต้านมยังแข็งแรงดี และสามารถทำการเสริมได้ในคราวเดียว แพทย์อาจเลือกทำ เลาะสาร + เสริมซิลิโคนใหม่ทันที (One Stage Surgery) โดยใช้ซิลิโคนเกรดพรีเมียม เช่น Motiva, Mentor ที่มีผิวสัมผัสนุ่มและปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อ
การดูแลหลังผ่าตัดและการฟื้นฟู
หลังผ่าตัดเลาะสารเหลว ผู้ป่วยควรดูแลตนเองอย่างใกล้ชิดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรก ช่วยลดบวมและปวด
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายช่วง 1 เดือนแรก
- รับประทานยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบให้ครบตามแพทย์สั่ง
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะมีผลต่อการสมานแผล
- มาตรวจติดตามตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพทย์ประเมินการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ
- หากทำการเสริมใหม่ภายหลัง ควรพักฟื้นอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับซิลิโคนใหม่อย่างปลอดภัย
เคสรีวิวจากลูกค้าจริง
เคสแก้เลาะสารหน้าอกและเสริมจมูกเทคนิค Open Rib

เคสนี้เคยผ่านการฉีดสารเหลวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ เจ็บหน้าอก และคลำได้ก้อนแข็งบริเวณเต้านม อีกทั้งยังมีปัญหาหน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน จากการตรวจพบว่าสารเหลวยังคงตกค้างอยู่ภายในเนื้อหน้าอก คุณหมอยุนจึงทำการ “เลาะสารเหลวออกทั้งหมด” อย่างละเอียด เพื่อกำจัดสารแปลกปลอมที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ และฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อให้กลับมาใกล้เคียงปกติ หลังจากนั้นจึงทำการเสริมใหม่ด้วยซิลิโคน Mentor MemoryGel Xtra ขนาด 380cc ที่ให้สัมผัสนุ่มเป็นธรรมชาติ ทรงสวยชิดเข้ารูป หน้าอกดูเต่งตึงและสมส่วนกับรูปร่างโดยรวม ผลลัพธ์หลังแก้ หน้าอกดูละมุน ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน ให้ความรู้สึกสวยธรรมชาติอย่างลงตัว


ในส่วนของจมูก เดิมทีมีปัญหาโครงสร้างสันจมูกเตี้ย เนื้อน้อย ทำให้รูปหน้าดูแบนและขาดมิติคุณหมอยุนเลือกใช้เทคนิค Open Rib หรือเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง เพื่อสร้างฐานจมูกที่มั่นคงและออกแบบทรงให้เหมาะกับโครงหน้าโดยเฉพาะ หลังแก้ทรงจมูกมีความ สโลปสวย ปลายพุ่งละมุน ดูมีมิติและสมดุลกับใบหน้าโดยรวม ผลลัพธ์ที่ได้คือจมูกที่สวยหวาน ดูธรรมชาติ มีความละมุนทุกมุมมอง

เคสนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการ “แก้ทั้งหน้าอกและจมูก” ที่เน้นความปลอดภัย ความละเอียด และผลลัพธ์ที่สวยกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติทั้งใบหน้าและรูปร่าง.
สรุป
“เลาะสารเหลวหน้าอก” ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาความสวยงาม แต่คือการ คืนความปลอดภัยให้กับร่างกาย หลังจากได้รับสารอันตรายเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหากเลาะออกได้หมดและเนื้อเยื่อฟื้นตัวดี การเสริมหน้าอกใหม่ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย สวยเป็นธรรมชาติ และกลับมามั่นใจได้อีกครั้ง
ที่ Siriwellness มีทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 10,000 เคส ผ่าตัดในห้องปลอดเชื้อมาตรฐานโรงพยาบาล ทุกเคสดูแลอย่างปลอดภัยตั้งแต่ต้นจนจบ