หลังจากฉีดโบท็อกไปคนไข้หลายคนมักจะสงสัยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนโบท็อกที่ฉีดไปนั้นถึงเห็นผลลัพธ์ ? ควรปฎิบัติตัวอย่างไรหลังฉีดโบท็อก? โบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน? บทความนี้มีคำตอบให้
ฉีดโบท็อก คืออะไร ?
การฉีดโบท็อกคือการฉีดสาร Botulinum toxin type A ซึ่งสารตัวนี้จะมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณ ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ คลายตัวและนิ่มลง เลยสามารถเอามาใช้ในเรื่องความสวยความงาม เพราะจะช่วยในเรื่องการปรับรูปหน้าลดริ้วรอย


ฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้ากี่วันเห็นผล ?
โดยปกติแล้วโบท็อกแต่ละยี่ห้อนั้น จะเห็นผลในระยะเวลาที่แตกต่างกันหรือบริเวณแต่ละจุดที่ฉีดกับเทคนิคของแพทย์ก็มีผลต่อระยะเวลาด้วยเช่นกัน
- ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลได้ในช่วง 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2 สัปดาห์
- ฉีดโบท็อกลดกรามปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
- ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 1-2 สัปดาห์
การออกฤทธิ์ของโบท็อกหลังฉีดก็มีผลต่อกับระยะเวลาที่จะเห็นผลลัพธ์หลังทำ
- ถ้าในกรณีที่โบท็อกถูกดูดซึมเข้าไปอยู่เซลล์ประสาท จะเห็นผลเร็ว ยังทำให้โบท็อกอยู่นานได้มากขึ้น
- ถ้าในกรณีที่โบท็อกไม่ดูดซึม จะไหลไปตามกระแสเลือด ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง หลังฉีดหลังจากนั้นจะถูกขับออกไปในที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาเห็นผลหลังฉีดโบท็อก
จำนวนของยูนิตที่ใช้
โดยการฉีดโบท็อกในแต่นะจุด จะมีการจำกัดจำนวนยูนิตไว้ว่าไม่ควรเกินกี่ยูนิต ถ้ามีการใช้ยูนิตที่เยอะเกินไปอาจส่งผลให้โบท็อกกระจายไปในจุดอื่นที่เราไม่ต้องการหรือถ้าในกรณีที่ฉีดน้อยไปก็จะส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน โดยปริมาณยูนิดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจุดจะมีดังต่อไปนี้
- ลดกรามปรับหน้าเรียวจะอยู่ที่ 50-100 ยูนิต ลิฟท์กรอบหน้าส่วนล่างอยู่ที่ประมาณ 30-50 ยูนิต หากฉีดมากเกินไปทำให้หน้าดูแข็ง แก้มดูตอบ โหนกแก้มดูสูงได้
- ลดริ้วรอยหน้าผากจะอยู่ที่ 30 ยูนิต หากฉีดมากเกินไปจะส่งผลให้แสดงสีหน้าลำบาก หน้าจะดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
- ริ้วรอยระหว่างคิ้วจะอยู่ที่ 25 ยูนิต หากฉีดมากเกินไปจะส่งผลทำให้หนังตาตก ตาดูแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ
- ริ้วรอยบริเวณหางตา ตีนกา 2 ข้างจะอยู่ที่ 25 ยูนิต ถ้าฉีดมากเกินไปจะทำให้คิ้วแข็งตึง คิ้วจะดูกระดกสูงขึ้น
- ลดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดกล้ามเนื้อน่องทั้ง 2 ข้าง จะอยู่ที่ 100-200 ยูนิต (ห้ามฉีดเกิน 300 ยูนิต ภายใน 3 เดือน) หากฉีดเกินจะส่งผลต่อการเดินและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ฉีดโบท็อกเพื่อลดเหงื่อ ทั้ง 2 ข้างจะอยู่ที่ 100-200 ยูนิต
- ลดขนาดปีกจมูกจะอยู่ที่ 25 ยูนิต หากฉีดเกินจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้คลายตัวมากเกินไป จนเกิดปัญหาในเรื่องการหายใจ
- ลดโหนกแก้ม อยู่ที่ประมาณ 25 ยูนิต หากฉีดมากเกินไปจะส่งผลให้แก้มแข็ง แสดงอารมณ์และสีหน้าได้ลำบาก
ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อก
ขนาดของกล้ามเนื้อในแต่ละบริเวณนั้นจะมีขนาดที่ไม่เท่ากัน เลยทำให้ระยะเวลาเห็นผลในแต่ละส่วนนั้นไม่เท่ากัน
- ฉีดเพื่อลดริ้วรอย โดยปกติแล้วจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3-4 วัน ช่วงนี้จะเริ่มมีอาการตึงๆ และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2 สัปดาห์ โดยบริเวณที่เห็นผลไวจะมี ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก เพราะว่าริ้วรอยเหล่านี้เกิดจากการพับของผิวหนังชั้นบน
- ฉีดลดกราม ปรับรูปหน้า จะเริ่มออกฤทธิ์ใน 14 วัน กล้ามเนื้อจะนิ่มลง ถ้าเกิดลองกัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามจะเริ่มไม่เด้ง โดยจะเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน บริเวณส่วนนี้จะเห็นผลช้ากว่าการลดริ้วรอย เพราะกล้ามเนื้อบริเวณกรามนั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่า มีการใช้งานหนักมากกว่า แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อกรามของแต่ละคนด้วยเพราะในแต่ละคนนั้นมีกล้ามเนื้อกรามไม่เท่ากัน เลยทำให้ระยะเวลานั้นแตกต่างกันออกไป
- ฉีดลิฟท์กรอบหน้า จะเริ่มเห็นผล 3-4 วัน แล้วจะเริ่มเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อเซลล์กล้ามเนื้อที่บริเวณลำคอ ระยะเห็นผลนั้นจะขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน ถ้าในคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก มีเหนียงเยอะก็จะส่งผลให้ระยะเวลาเห็นผลที่นานขึ้น
- ฉีดลดเหงื่อ เหงื่อจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 1-3 วันแรก หลังจากช่วงนี้ไปเหงื่อจะเริ่มแห้งสนิท โดยจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 1-2 สัปดาห์ ระยะเวลาเห็นผลจะขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมเหงื่อแต่ละคน แต่ในคนที่ทำงานกลางแจ้งหรือไม่ก็ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนจะส่งผลให้เหงื่ออกไว
ความเข้มข้นของตัวโบท็อกที่ใช้
ถ้าโบท็อกที่ใช้ผสมน้ำเกลือมากเกินไป จะส่งผลให้มีความเจือจางและยังทำให้ตัวยากระจายไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการ ส่งผลให้ระยะเวลาเห็นผลช้าลง
ประสบการณ์ของแพทย์
ประสบการณ์ของแพทย์มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเห็นผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกเพราะแพทย์ควรจะต้องมีประสบการณ์ มีความแม่นยำในการฉีดโบท็อกแต่ละจุดของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คนไข้ต้องการ
แพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Siriwellness
หมอปริ๊นซ์ (นพ.พิชญตย์ วิเศษธนากร) ว.60031 จบการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้
โบท็อกแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีโมเลกุลที่ต่างกัน โดยตัวโมเลกุลนั้นมีผลต่อการกระจายตัวยา ถ้ายาที่มีการออกแบบให้กระจายตัวกว้าง ก็จะทำให้แผลเห็นผลไวขึ้น
การดื้อโบท็อก
สามารถเกิดขึ้นได้จากร่างกายของคนไข้เพราะร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านโบท็อกมากกว่าปกติ จะทำให้ในการฉีดครั้งต่อๆ ไปจะไม่ได้ผล โดยจะแบ่งระดับการดื้อโบท็อกได้ 3 ระดับดังต่อไปนี้
- ระดับที่ 1 แต่ก่อนอาจเคยฉีดโบท็อกในจำนวนยูนิตเท่าเดิมตามปกติที่ฉีดแล้วเห็นผล แต่ถ้ามีภาวะดื้อโบท็อกผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะไม่เหมือนเดิม ไม่ค่อยเห็นผล
- ระดับที่ 2 ใช้โบท็อกที่มีจำนวนยูนิตมากขึ้นเพื่อให้ลดริ้วรอย ลดกรามได้อย่างเห็นผล
- ระดับที่ 3 ใช้ปริมาณของโบท็อกมากขึ้นแต่กับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
โบท็อกอยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
โบท็อกริ้วรอยนั้นโดยปกติแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน โบท็อกกรามนั้นจะอยู่ได้ 5-6 เดือน แต่ถ้าคนไข้ปฎิบัติตัวถูกต้อง อาจจะอยู่ได้นานมากกว่านั้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
ถ้าคนไข้อยากให้หลังการฉีดโบท็อกเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ ควรปฎิบัติสิ่งเหล่านี้หลังการฉีดโบท็อก
- ในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก งดการนอนตะแคง นอนราบ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเคลื่อนย้ายไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
- การเคี้ยวหมากฝรั่งประมาณ 15 นาที หลังการฉีดโบท็อกบริเวณกรามจะช่วยให้ตัวยากระจายตัวได้เต็มที่
- ในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก ควรงดแต่งหน้าเพราะเครื่องสำอางอาจเกิดการอุดตันบริเวณที่ฉีดโบท็อกได้
- 1 วันหลังฉีดโบท็อก ควรงดออกกำลังกาย ควรงดแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้รอยช้ำหาย ช้าจากการที่เลือดไหลเวียนได้ดี
- หลังฉีดโบท็อกในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าที่รุนแรงและเสี่ยงต่อการสลายเร็ว ควรหลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสความร้อนโดยตรง เพราะอาจส่งผลให้โบท็อกทำงานได้ไม่เต็มที่
อะไรบ้างที่ส่งผลให้โบท็อกสลายเร็ว ?
- การขยับกล้ามเนื้อบริเวณหน้ามากเกินไป
- ใบหน้าได้สัมผัสความร้อนมากเกินไป
- การผสมยาที่ผสมน้ำเกลือมากเกินไป การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง
- โบท็อกที่ฉีดเข้าไปอยู่ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป
- โบท็อกที่ปริมาณน้อยเกินไป ไม่เหมาะสมกับกล้ามเนื้อ
อยากเห็นผลเร็ว หลังฉีดโบท็อก ทำอย่างไร ?
เทคนิคที่แพทย์ใช้มีผลอย่างมากต่อความเร็วในการเห็นผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก ถ้าฉีดโบท็อกด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะส่งผลต่อความเร็วในการออกฤทธิ์ของตัวโบท็อก
ในกรณีของคนที่ฉีดไปแล้วอยากให้เห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น การรับประทานแร่สังกะสี หรือ Zinc 50 mg ก่อนและหลังฉีดโบท็อกก็จะช่วยให้โบท็อกนั้นออกฤทธิ์ได้เร็วมากขึ้น แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน
สรุป
โดยปกติการฉีดโบท็อกจะมีระยะเวลาเห็นผลต่างกันขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดโบท็อก ตัวอย่างเช่น ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย จะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2 สัปดาห์ ฉีดโบท็อกลดกรามปรับรูปหน้า จะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 1-2 สัปดาห์ การดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ ก็มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกนั้นเห็นได้เร็วมากขึ้นด้วย