Body tite กระบวนการสลายไขมัน ลดสัดส่วน กระชับผิว โดยปราศจากการผ่าตัด ด้วยTite Fx Handpiece ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนการทำงานดังนี้
1.Vaccuum
เริ่มการทำงาน โดยเครื่องจะเก็บพื้นที่ผิวในบริเวณที่ทำการรักษาให้เต็มพื้นที่ของ vaccuum chamber โดยตัวเครื่องจะมีระบบป้องกัน คือ หากพื้นที่ที่ทำการรักษามีน้อยจนเกินไป คือไม่สามารถเก็บได้เต็มพื้นที่ของ vacuum chamber เครื่องจะไม่เข้าสู่กระบวนการทำงานที่
2.Bi polar RF Power
เมื่อเครื่องได้เก็บพื้นที่ที่ทำการรักษาได้เต็ม vacuum chamber เรียบร้อยแล้ว จะทำการปล่อยพลังงาน Bi polar RF(คลื่นวิทยุ)และเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานความร้อนลงสู่ผิว เพื่อช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ช่วยสร้างเสริมการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง ระหว่างทำการรักษา เครื่องจะมีระบบ Real time temperature sensor monitor โชว์ที่หน้าจอเครื่องและบริเวณ Handpiece ที่ทำการรักษา ทำให้ทราบอุณหภูมิบริเวณที่ทำการรักษาทันที อีกทั้งยังสามารถตั้งอุณหภูมิ Cut Off ( Cut off temperature ) ให้เหมาะสมตามปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย
3.High Voltage Shot pulse RF Power
เมื่ออุณหภูมิผิวที่ทำการรักษามีความร้อนสะสมถึงค่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ (Cut off temperature) เครื่องจะทำการปล่อย ๆ High Voltage Shot pulse RF Power เพื่อทำลายเซลล์ไขมันให้ตายอย่างถาวร โดยสามารถปรับตั้งค่าได้ตั้งแต่ 1-10
หลังทำการรักษาในครั้งแรกจะรู้สึกได้ถึงรูปร่างที่ดีขึ้นแนะนำให้ทำต่อเนื่องติดต่อกันสัปดาห์ละ1 ครั้ง อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ และจะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นในครั้งที่ 4 เป็นต้นไปโดยจำนวนครั้งขึ้นกับปริมาณไขมันส่วนเกินบริเวณที่จะทำการรักษา และตามคำแนะนำของแพทย์
RF Cellutron เทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายทำให้เลือดและระบบน้ำเหลืองหมุนเวียนได้ดีขึ้น โดยการปล่อยคลื่นวิทยุผ่านตัว Multi-Electrode ทำให้เกิดอุณภูมิความร้อนใต้ชั้นผิว คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดการยืดหดตัว ส่งผลให้เซลลูไลท์ค่อยๆแตกตัวและสลายไป ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับขึ้นและยังผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
ผลที่ได้
กำจัดเซลลูไลท์และไขมันส่วนเกิน ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
ระยะเวลาในการรักษา
10-60นาทีแล้วแต่บริเวณที่ต้องการกระชับผิว สามารถทำได้ 1-3ครั้งต่อสัปดาห์จนครบ 10-15ครั้ง
Meso Fat คือวิธีการที่แพทย์ฉีดสารสกัดจากถั่วเหลือง วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ลงไปใต้ผิวหนัง ซึ่งสารต่าง ๆ เหล่านี้จะเข้าไปทำหน้าที่ในการสลายไขมันส่วนเกิน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการดูแลรักษาใบหน้า รักษาหุ่นของสาวๆให้ผอมเพรียว เรียว ทันใจ แทนการเข้าผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับหลายส่วนในร่างกาย เช่นคาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพกและเอว เป็นต้น
กลไกการทำงานของMeso fat นี้คือ การฉีดเข้าไปทำให้ผนังไขมันแตกตัวออก ทำให้ไขมันที่จับตัวเป็นก้อนอยู่สลายออกมา และกลายเป็นไขมันเหลว จากนั้นกลไกของร่างกายก็ทำการขับไขมันออกมาทางปัสสาวะและทางอุจจาระ ซึ่งระยะเวลาและขนาดในการฉีดจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่เราต้องการฉีด ระยะเวลาอาจจะอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไขมันนั้นๆ
ตำแหน่งที่นิยมฉีด
- ลดไขมันที่แก้ม
- ลดไขมันที่คาง (เหนียง)
- ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
- ลดไขมันหน้าท้อง
- ลดไขมันที่จมูก
- ลดไขมันที่หนังตาบน
- ลดไขมันที่น่อง
ข้อจำกัดของการฉีดเมโสแฟต
- ทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
- ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคเบาหวาน
- ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคเลือด
- ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคมะเร็ง
- ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคหัวใจ
การฉีดแต่ละจุดจะฉีดห่างกันอย่างน้อย 1.5 – 2 ซม. และฉีดซ้ำทุกๆ 5 – 7 วัน หลังจากฉีดแล้วไขมันจะเริ่มหดตัวลดลง 15-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัว 50% ขึ้นไปเมื่อทำครบคอร์สแล้ว
ระยะเวลาในการฉีดเมโสแฟตต่อครั้ง 15-20 นาที
ฉีดเมโสแฟตแล้ว อยู่ได้นานแค่ไหน ประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังการฉีด
การดูแลตัวเองหลังการฉีดเมโสแฟต
- ดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยชับไขมันส่วนเกินที่เราได้ส่งเมโสเข้าไปจัดการออกมาแล้ว
- ออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นมาในช่องว่างที่ไขมันสลายออกมา
- หลีกเลี่ยงการนวดตัว อบซาวน่าและการทำทรีทเม้สท์ใดๆ หลังจากทำประมาณ 7 วันเพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง
- อาจมีอาการบวมยาเป็นเวลา 3 – 4 ชั่วโมง ควรปล่อยให้หายเอง เมื่อหายแล้วจะไม่ทิ้งรอยใดๆ ผิวหนังจะยุบเอง ไม่เป็นคลื่น ไม่มีรอยบุบ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่